รายงานผลประกอบการของบริษัทการเงินยักษ์ใหญ่เริ่มด้วย JP Morgan
เศรษฐกิจจะดำเนินไปอย่างไรในช่วงที่เหลือของปี 2020 เป็นหนึ่งในคำถามหลักโดยเฉพาะสำหรับนักลงทุนและผู้ค้าในตลาดหุ้น รายงานที่ดีเกินคาดจาก บริษัท USA500 ส่วนใหญ่ในไตรมาสที่สอง จะตามมาด้วยรายงานไตรมาสที่สามที่ดีด้วยหรือไม่?
ฤดูการรายงานรายได้มาถึงอย่างจริงจังในสัปดาห์นี้ โดยเริ่มจากยักษ์ใหญ่ทางการเงิน JPMorgan (NYSE: JPM) และ Citigroup (NYSE: C) เปิดเผยรายงานของพวกเขาในวันอังคารตามด้วย Goldman Sachs (NYSE: GS), Bank of America (NYSE: BAC) และ Morgan Stanley (NYSE: MS) เป็นลำดับถัดไป
JPMorgan (JPM) ซึ่งเป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา ที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Yahoo Finance) อยู่ที่ 308.417 พันล้านดอลลาร์ อยู่ในรายการต้นๆ ของนักลงทุนในอุตสาหกรรมบริการทางการเงินมาโดยตลอด ที่ราคาปัจจุบัน 101.20 ดอลลาร์ ราคาหุ้นลดลงเกือบ 29% ในปี 2020 เนื่องจากวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา
ในไตรมาสที่สาม JP Morgan รายงานตัวเลข EPS (กำไรต่อหุ้น) สูงกว่าที่คาดไว้อย่างมาก (0.04 ดอลลาร์) ในขณะที่การคาดการณ์ของตลาดอยู่ที่ 1.34 ดอลลาร์และทำให้ตลาดประหลาดใจที่ 2.99% (ตรวจสอบรูปด้านล่างจาก Nardak)
ในวันอังคารที่ 13 ตุลาคม จะมีการเผยแพร่รายงานประจำไตรมาสทางการเงิน ที่สิ้นสุดในเดือนกันยายน 2020 จากการวิจัยของ Zacks Investment Consulting จากการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ 9 คน การคาดการณ์ EPS สำหรับไตรมาสนี้อยู่ที่ 2.26 ดอลลาร์ รายงาน EPS สำหรับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้วอยู่ที่ 2.68 ดอลลาร์
อัตราดอกเบี้ยสุทธิยังคงอยู่ที่ 0 ถึง 0.25% และไม่มีแผนของธนาคารกลางสหรัฐที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อยก็ในระยะสั้น แม้ว่า FOMC บางคนจะต่อต้านอัตราดอกเบี้ยติดลบก็ตาม สิ่งนี้ดูเหมือนจะเป็นไปได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากพรรครีพับลิกันชนะการเลือกตั้งวันที่ 3 พฤศจิกายน
ในรูปด้านล่างจาก Finviz.com คุณจะเห็นว่าในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา หุ้นการเงิน ตามหลังจากพลังงาน (ซึ่งยังคงสูญเสียมูลค่า) และบริการด้านการสื่อสาร รวมถึงหุ้นสุขภาพ ทั้งคู่ที่ดีขึ้นกว่า 7.58% ซึ่งเป็นอัตราการฟื้นตัวที่ต่ำที่สุด
ส่วนใดของรายงานที่ควรให้ความสนใจมากที่สุด?
อัตราดอกเบี้ยสุทธิเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดส่วนหนึ่งของรายงานประจำไตรมาสนี้เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้หลักจาก 2% เป็นศูนย์ในเดือนมีนาคม และส่งผลกระทบโดยตรงต่อรายได้ของธนาคารเนื่องจากมีผู้สนใจเก็บเงินสดไว้ในธนาคารน้อยลง และส่วนใหญ่ได้รับการสนับสนุนให้โอนเงินไปยังตลาดอื่นๆ อย่างไรก็ตามหากธนาคารสามารถให้พวกเขาซื้อขายในตลาดหุ้น หรือลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ พวกเขาสามารถชดเชยส่วนที่สูญเสียจากค่าคอมมิชชั่นการซื้อขายและการลงทุนได้
ในทางกลับกัน ในช่วงนี้เงินกู้มีบทบาทสำคัญมาก อย่างไรก็ตามมันเป็น “ดาบสองคม” ในขณะที่เงินกู้และสินเชื่อสำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลทำผ่านธนาคาร ซึ่งสามารถช่วยให้พวกเขาเพิ่มรายได้เนื่องจากวิกฤตการแพร่ระบาดทำให้งานจำนวนมากสูญเสียไป และผู้คนประกาศล้มละลายและไม่สามารถจ่ายเงินได้ การจ่ายดอกเบี้ยไม่ใช่เงินต้นของเงินกู้ดังนั้นเงินกู้ที่ไม่ดีในแง่ของจำนวน (ผู้ล้มละลาย) และจำนวนเงินก็จะเป็นที่สนใจเช่นกัน
ภาพรวมทางเทคนิค
ดังที่เราเห็นในกราฟรายสัปดาห์ หลังจากการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วของไตรมาสสอง ในไตรมาสที่สามการเคลื่อนไหวที่เป็นกลางจะเกิดขึ้นซ้ำระหว่าง 95 ถึง 103 ดอลลาร์ ราคาหุ้นปิดไตรมาสที่ 96.36 ดอลลาร์ ซึ่งหมายถึงการเติบโตเพียง 2.36% ราคาปัจจุบัน 101.20 ดอลลาร์เท่ากับ 38.2% ของระดับ Fibonacci รายงานเชิงบวกจะช่วยผลักดันให้ราคาหุ้นสูงขึ้นไปถึงแนวต้านแรกที่ 108.70 ดอลลาร์ (Fibonacci 50%) และระดับ Fibonacci 61.8% ที่ 116.20 ดอลลาร์ รายงานเชิงลบสามารถผลักดันราคาไปสู่ 91.75 ดอลลาร์ (23.6% Fibonacci และระดับแนวรับแรก) ระดับปัจจุบันแม้ว่าจะสูงกว่า 91 ดอลลาร์ แต่เป็นการชี้ให้เห็นว่าหมีมีความแข็งแกร่งมากขึ้นที่อาจกดราคาให้ต่ำลง แต่ด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ มีโอกาสน้อยลงที่จะได้เห็นราคาลงต่ำกว่านี้
คลิกเพื่อดู ปฏิทินเศรษฐกิจ หรือ สัมมนาออนไลน์ฟรี
Ahura Chalki
Market Analyst Hot Forex
คำเตือน: เนื้อหานี้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อการสื่อสารการตลาดทั่วไป เพื่อเป็นการให้ข้อมูลข่าวสารเท่านั้น และไม่ถือเป็นการวิจัยเพื่อการลงทุนอิสระ ไม่มีส่วนหนึ่งส่วนใดของการสื่อสารนี้ที่ประกอบด้วย หรือควรถูกพิจารณาว่าประกอบด้วย คำแนะนำการลงทุน หรือการชักชวนลงทุน หรือการชักชวนเพื่อวัตถุประสงค์ของการซื้อหรือขายตราสารทางการเงินใดๆ ข้อมูลทั้งหมดถูกรวบรวมจากแหล่งที่เชื่อถือได้ และทุกข้อมูลประกอบด้วยตัวบ่งชี้ผลงานในอดีต ไม่ได้เป็นการรับประกันหรือเป็นตัวบ่งชี้ที่น่าเชื่อถือสำหรับผลงานในอนาคต ผู้ใช้พึงทราบว่าการลงทุนใดๆ ในผลิตภัณฑ์ที่ใช้ Leveraged มีความไม่แน่นอนในระดับหนึ่ง และการลงทุนในลักษณะนี้มีความเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงที่สูง ซึ่งผู้ใช้ต้องรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว ทางเราไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียใดๆ ที่เกิดจากการลงทุนโดยใช้ข้อมูลที่เกิดจากการสื่อสารนี้ การสื่อสารนี้จะต้องไม่ถูกผลิตซ้ำหรือแจกจ่ายต่อ โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากทางเรา
