หุ้นเทคโนโลยีที่ถูกพูดถึงมากที่สุด 2 ตัว (Apple Inc. และ Facebook) รายงานผลประกอบการหลังจากตลาดสหรัฐปิดทำการในวันพุธที่ 28 เมษายน
Apple ยังคงเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีที่ร้อนแรงที่สุด และเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกาและใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดเมื่อปิดทำการสัปดาห์ที่ผ่านมา Apple มีมูลค่าตลาดมากกว่า 2.2 ล้านล้านดอลลาร์ หลังจากปี 2020 ที่น่าทึ่ง โดยทุกภาคส่วนของบริษัทมีผลประกอบการที่ดีกว่า และรายได้รวมถึงกำไรต่อหุ้นที่สูงขึ้นจากที่ผ่านมาทั้งหมด การเปิดตัว iPhone 5G ที่ล่าช้า และประสบความสำเร็จอย่างมากสำหรับ iMac และ iPads เนื่องจากการระบาดของโรคระบาดและความต้องการฮาร์ดแวร์สำหรับทำงานในบ้านเพิ่มสูงขึ้น รวมถึงการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในกลุ่มธุรกิจอุปกรณ์ที่สวมใส่ได้และบริการ ทำให้ราคาหุ้นพุ่งสูงมากกว่า 81% ในปีที่ผ่านมา และมีมูลค่าตลาดเพิ่มขึ้นกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่การแตกหุ้น 4-1 ประสบความสำเร็จในเดือนสิงหาคม ราคาหุ้นได้ทำระดับต่ำสุดในเดือนกันยายนที่ 104.46 ดอลลาร์ และทำระดับสูงสุดในเดือนมกราคมที่ 145.00 ดอลลาร์ และปัจจุบันซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 135.00 ดอลลาร์ นับเป็นการเพิ่มขึ้น 2% นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงตอนนี้ ไตรมาสปัจจุบันเป็นหนึ่งในไตรมาสที่แอปเปิ้ลเงียบเหงารที่สุด อย่างไรก็ตามมีการคาดการณ์การฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง โดยมียอดขาย iPhone เพิ่มขึ้น 43% เป็น 41.4 พันล้านดอลลาร์ ยอดขาย iPad เพิ่มขึ้น 29% เป็น 5.6 พันล้านดอลลาร์ ยอดขาย Mac 6.8 พันล้านดอลลาร์เพิ่มขึ้น 27% ยอดขายอุปกรณ์สวมใส่ (ส่วนใหญ่เป็น Apple Watch และ AirPods) ที่ 7.4 พันล้านดอลลาร์เพิ่มขึ้น 18% และการก้าวกระโดด 16% ของภาคบริการ เป็น 15.5 พันล้านดอลลาร์ ดังที่ Barrons เขียนไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว¹ “โดยรวมแล้วการคาดการณ์ของ Street คาดว่าจะมียอดขาย 77,000 ล้านดอลลาร์เพิ่มขึ้น 32% จากปีที่แล้ว โดยมีผลกำไร 98 เซนต์ต่อหุ้น ซึ่งจะเป็นอัตราการเติบโตรายไตรมาสที่เร็วที่สุดของ Apple นับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2012 เมื่อรายได้ลดลงประมาณครึ่งหนึ่งของที่เป็นอยู่ในขณะนี้ และนักวิเคราะห์ของ Apple ส่วนใหญ่ดูเหมือนจะคิดว่าการประมาณการของตัวเองต่ำเกินไป หากยอดขายออกมาที่ 77 พันล้านดอลลาร์ น่าจะทำให้เกิดการเทขายหุ้น” Wedbush ยังคงเป็นนักวิเคราะห์ที่สำคัญที่สุดโดย Dan Ives ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 175 ดอลลาร์สำหรับราคาหุ้น และ UBS อัปเกรดหุ้นเป็นซื้อจากเป็นกลางเมื่อต้นเดือน ด้วยราคาเป้าหมายที่ 142 ดอลลาร์ บันทึกล่าสุดมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว (21 เมษายน) จาก Morgan Stanley ด้วยคะแนนมากเกิน และให้ราคาเป้าหมายที่ 156.00 ดอลลาร์
เทคนิคอล – การปรับตัวขึ้นของกราฟรายวันหยุดลงที่ระดับสำคัญ 61.8 ของ Fibonacci (134.35) ก่อนหน้ารายงานผลประกอบการ โดยมีแนวรับที่ระดับ 50.0 Fib และ MA20 วันที่โซน 130-132.00 การทะลุแนวรับนี้อาจนำไปสู่แนวรับจิตวิทยา 125.00 และระดับต่ำสุดในเดือนมีนาคมที่ 116.45 ส่วนการทะลุระดับ 61.8 Fib อย่างชัดเจน จะมีเป้าหมายที่ 140.00 และจุดสูงสุดของปี 2021 ที่ 145.00 ส่วนขยาย 161.8 Fibonacci อยู่ที่ 162 RSI และ MACD กำลังรวมเข้ากับกับเส้นที่เร็วกว่า Stochastics เคลื่อนที่เร็วขึ้นเพื่อทดสอบโซน overbought
Facebook – เช่นเดียวกัน มียอดขายที่โดดเด่นในปี 2020 ด้วยผลประกอบการรายได้และยอดขายโฆษณา ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาราคาหุ้นปรับตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดที่ 136 ดอลลาร์ ไปสู่ระดับสูงสุดที่ 315 ดอลลาร์ และปัจจุบันตรึงเหนือ 300 ดอลลาร์เข้าสู่สัปดาห์รายงานผลประกอบการ หลายคนคาดหวังว่าจะได้เห็นความประหลาดใจมากขึ้นเช่นกันจาก Facebook ที่ ZACKS รายงานว่า “ทำไมฤดูกาลแห่งการสร้างรายได้จึงดีสำหรับ Facebook” ² โดยอ้างว่า Facebook (FB) กำลัง “เห็นการแก้ไขประมาณการรายได้ที่ดีในช่วงปลายปี ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะเป็นตัวตั้งต้นในการทำรายได้ให้สูงขึ้น อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์ได้มีการเพิ่มประมาณการก่อนที่ผลประกอบการจะออกมา – ด้วยข้อมูลที่ทันสมัยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ – เป็นตัวบ่งชี้แนวโน้มที่ดีบางอย่างที่อยู่ใต้พื้นผิวของ FB ในรายงานนี้” ค่าประมาณที่ถูกต้องที่สุดสำหรับไตรมาสปัจจุบันอยู่ที่ 2.40 ดอลลาร์ต่อหุ้นสำหรับ FB เมื่อเทียบกับการประมาณการของ Zacks ที่กว้างกว่าที่ 2.36 ดอลลาร์ต่อหุ้น สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่าเมื่อเร็วๆ นี้นักวิเคราะห์ได้ปรับประมาณการของพวกเขาสำหรับ FB ทำให้ประมาณการรายได้ต่อหุ้นของ Zacks อยู่ที่ + 1.87% ก่อนเข้าสู่ฤดูรายงานรายได้ นอกจากนี้ยังคาดว่ารายได้จะอยู่ที่ระดับบนสุดของประมาณการโดยคาดว่าจะมีมูลค่า 23.53 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างมากถึง 32.75% นักวิเคราะห์ยังคงมองเป็นขาขึ้น โดยมี 44 จาก 51 คนที่ยึดคำแนะนำซื้อหรือคำแนะนำซื้อที่แข็งแกร่ง ด้วยเป้าหมายกรอบราคา 341.00 ถึงระดับสูงสุด 418.00 และต่ำสุด 220.00 สิ่งที่น่าสนใจคือ Wedbush (Bullish ใน Tesla และ Apple) ทำให้ลดความร้อนแรงลงสำหรับ Facebook โดยการปรับลดมุมมองลงให้เป็นกลาง และลดราคาเป้าหมายลงเหลือ 340 ดอลลาร์จาก 375 ดอลลาร์
ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีทั้งสองมีความขัดแย้งกันอย่างเปิดเผยในอดีตที่ผ่านมา ในเรื่องการโฆษณา การอัปเดตความเป็นส่วนตัวของ iPhone และการทะเลาะวิวาทยังคงดำเนินต่อไป โดยหน่วยงานกำกับดูแลและรัฐบาลทั่วโลกเกี่ยวกับกระแสข่าวและการเข้าถึงโฆษณา ทีมผู้บริหารมีแนวโน้มที่จะถูกถามในการรายงานรายได้ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ในอนาคตที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้ ผู้ชนะโดยสิ้นเชิงไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่ทั้งสองบริษัทล้วนได้รับผลกระทบไปแล้ว ทั้งในด้านชื่อเสียงและการดำเนินงาน เมื่อเกิดความขัดแย้งอย่างเปิดเผยต่อกันและต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เทคนิคอล การลดลงของกราฟรายวันได้หยุดลงที่ระดับ 23.6 ของ Fibonacci (300.00) โดยทะลุต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 20 วัน และลดลงจากช่วงต้นเดือนเมษายนที่เป็นจุดสูงสุดตลอดกาลที่ 315.60 ดอลลาร์ แนวรับถัดไปอยู่ที่ 38.2 ของ Fib และค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วัน บริเวณโซน $ 290.00 การทะลุแนวรับนี้อาจทำให้ระดับ Fib 50.0 และ 61.8 อยู่ที่ 280.00 และ 270 ตามลำดับ จากนั้นเป็นเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วันที่ 266.00 แนวรับที่ชัดเจนจากระดับ 23.6 ของ Fib และเส้นค่าเฉลี่ย 20 วัน ที่โซน 300-303 จะเป็นเป้าหมายถัดไป ที่จุดสูงสุดตลอดกาล 315.60 และโซน 330 อีกครั้ง RSI เป็นกลางที่ 56 ในขณะที่ MACD histogram และเส้นซิกแนลบ่งบอกว่าราคาสามารถอ่อนลงกว่านี้ได้อีก
²https://finance.yahoo.com/news/why-earnings-season-could-great-123612021.html
³https://uk.finance.yahoo.com/news/apple-iphone-privacy-seen-hurting-144817937.html
คลิกเพื่อดู ปฏิทินเศรษฐกิจ หรือ สัมมนาออนไลน์ฟรี
Stuart Cowell
Head Market Analyst
คำเตือน: เนื้อหานี้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อการสื่อสารการตลาดทั่วไป เพื่อเป็นการให้ข้อมูลข่าวสารเท่านั้น และไม่ถือเป็นการวิจัยเพื่อการลงทุนอิสระ ไม่มีส่วนหนึ่งส่วนใดของการสื่อสารนี้ที่ประกอบด้วย หรือควรถูกพิจารณาว่าประกอบด้วย คำแนะนำการลงทุน หรือการชักชวนลงทุน หรือการชักชวนเพื่อวัตถุประสงค์ของการซื้อหรือขายตราสารทางการเงินใดๆ ข้อมูลทั้งหมดถูกรวบรวมจากแหล่งที่เชื่อถือได้ และทุกข้อมูลประกอบด้วยตัวบ่งชี้ผลงานในอดีต ไม่ได้เป็นการรับประกันหรือเป็นตัวบ่งชี้ที่น่าเชื่อถือสำหรับผลงานในอนาคต ผู้ใช้พึงทราบว่าการลงทุนใดๆ ในผลิตภัณฑ์ที่ใช้ Leveraged มีความไม่แน่นอนในระดับหนึ่ง และการลงทุนในลักษณะนี้มีความเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงที่สูง ซึ่งผู้ใช้ต้องรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว ทางเราไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียใดๆ ที่เกิดจากการลงทุนโดยใช้ข้อมูลที่เกิดจากการสื่อสารนี้ การสื่อสารนี้จะต้องไม่ถูกผลิตซ้ำหรือแจกจ่ายต่อ โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากทางเรา
