Visa บริษัทให้บริการทางการเงินที่ตั้งอยู่ในแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ให้บริการผลิตภัณฑ์โอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลกผ่านบัตรเครดิต บัตรเดบิต และบัตรเติมเงิน คู่แข่งหลักของ Visa ในภาคบริการทางการเงิน ได้แก่ American Express, Mastercard, Union Pay จนถึงตอนนี้ Visa เป็นผู้ครองจำนวนบัตรที่เปิดใช้แล้วและธุรกรรมของเครือข่ายบัตรเครดิตของสหรัฐอเมริกา Visa จะประกาศรายงานทางการเงินประจำไตรมาสที่ 4 ซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนกันยายน 2021 ในวันที่ 26 ตุลาคม 2021 (วันอังคาร) หลังจากตลาดปิด
ในขณะที่บริษัทส่วนใหญ่ต่อสู้ดิ้นรนหลังจากการระบาดใหญ่ของ Covid-19 Visa ไม่ได้ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากยอดขายประจำปีในปีงบประมาณ 2020 ที่รายงานที่ 21.2 พันล้านดอลลาร์ ลดลงเพียงเล็กน้อยจาก 23.0 พันล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณ 2019 ในปี 2021 Visa ยังคงรายงานรายงานทางการเงินที่ดีอย่างต่อเนื่อง ใน 3 ไตรมาสแรก ที่บันทึกรายงานยอดขายและกำไรต่อหุ้นที่เกินประมาณการของตลาด ในแถลงการณ์เมื่อตอนรายงานทางการเงินเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา Alfred Kelly ซีอีโอของ Visa อ้างว่าการกลับมาเปิดภาคเศรษฐกิจอีกครั้ง รวมถึงการผ่อนคลายข้อจำกัดการเคลื่อนไหวช่วยเพิ่มรายได้ของ Visa
นอกจากนี้ Visa ยังคงสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ในด้านบริการทางการเงินด้วยการสำรวจสาขาใหม่ๆ ใน Fintech และ cryptocurrencies เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม Visa รายงานว่าผู้บริโภคใช้เงินดิจิทัลมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ไปกับสินค้าและบริการในช่วงครึ่งแรกของปี 2021 และตัวเลขนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2021 อย่างไรก็ตาม Visa ยังคงประสบปัญหาในการรุกตลาดประเทศกำลังพัฒนา (ตลาดเกิดใหม่)
ที่มา : https://money.cnn.com/quote/forecast/forecast.html?symb=V
สำหรับรายงานประจำไตรมาสที่ 4 นักวิเคราะห์ตลาดของ Zacks คาดการณ์ว่ารายรับจากการขายของ Visa อยู่ที่ 6.48 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 27.07% จากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว ในขณะที่กำไรต่อหุ้น (EPS) คาดว่าจะอยู่ที่ 1.53 ดอลลาร์ต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 36.61% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว จากรายงานไตรมาส 3 ที่ผ่านมา คาดว่า Visa จะยังคงรายงานผลประกอบการที่เกินประมาณการของตลาดสำหรับไตรมาสนี้เช่นกัน
หุ้น Visa (MT5: #Visa) แสดงให้เห็นการฟื้นตัวหลังโควิด-19 ซึ่งสอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของ Dow Jones (US30) และ S&P500 (US500) โดยราคาขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว ที่ 252.63 ดอลลาร์ ก่อนจะลดลงมาเล็กน้อย และขณะนี้ซื้อขายอยู่ที่ 231.13 ดอลลาร์ (ราคาปิดวันศุกร์ที่ 23 ต.ค.) ขณะนี้อยู่เหนือ MA-50 รายสัปดาห์ ซึ่งเป็นแนวรับที่ใกล้ที่สุดใกล้ระดับ 23.6% ของ fibo ที่ 224.60 ดอลลาร์
ในกราฟรายวัน $216.94 (ระดับต่ำสุดในเดือนกันยายน) จะกลายเป็นแนวรับที่ใกล้ที่สุดหาก #Visa ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง ตามด้วยระดับ fibo 38.2% ที่ 207.25 ดอลลาร์ ส่วน $233.40 เป็นแนวต้านที่ใกล้ที่สุดและใกล้กับเส้นกรอบบนของ Bollinger Band ซึ่งเป็นราคาสูงสุดที่บันทึกไว้ในเดือนตุลาคม RSI-14 อยู่ในพื้นที่เป็นกลางประมาณ 50 ในขณะที่สัญญาณเส้น MACD รายวันอยู่ใกล้กับเส้น 0 และฮิสโตแกรมกำลังขยับขึ้นเหนือเส้น 0 จากการเคลื่อนไหวของแท่งเทียนรายวันตั้งแต่เดือนกันยายน ราคา #Visa จะอยู่ในกรอบแนวนอนตามกรอบของ Bollinger Bands
คลิกเพื่อดู ปฏิทินเศรษฐกิจ หรือ สัมมนาออนไลน์ฟรี
Tunku Ishak Al-Irsyad
Market Analyst HF Educational Office – Malaysia
คำเตือน: เนื้อหานี้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อการสื่อสารการตลาดทั่วไป เพื่อเป็นการให้ข้อมูลข่าวสารเท่านั้น และไม่ถือเป็นการวิจัยเพื่อการลงทุนอิสระ ไม่มีส่วนหนึ่งส่วนใดของการสื่อสารนี้ที่ประกอบด้วย หรือควรถูกพิจารณาว่าประกอบด้วย คำแนะนำการลงทุน หรือการชักชวนลงทุน หรือการชักชวนเพื่อวัตถุประสงค์ของการซื้อหรือขายตราสารทางการเงินใดๆ ข้อมูลทั้งหมดถูกรวบรวมจากแหล่งที่เชื่อถือได้ และทุกข้อมูลประกอบด้วยตัวบ่งชี้ผลงานในอดีต ไม่ได้เป็นการรับประกันหรือเป็นตัวบ่งชี้ที่น่าเชื่อถือสำหรับผลงานในอนาคต ผู้ใช้พึงทราบว่าการลงทุนใดๆ ในผลิตภัณฑ์ที่ใช้ Leveraged มีความไม่แน่นอนในระดับหนึ่ง และการลงทุนในลักษณะนี้มีความเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงที่สูง ซึ่งผู้ใช้ต้องรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว ทางเราไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียใดๆ ที่เกิดจากการลงทุนโดยใช้ข้อมูลที่เกิดจากการสื่อสารนี้ การสื่อสารนี้จะต้องไม่ถูกผลิตซ้ำหรือแจกจ่ายต่อ โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากทางเรา
