Booking Holdings: รายงานรายได้ไตรมาส 3

Booking Holdings Inc. (#BookingHolding) คือตัวแทนให้บริการจองที่พัก ตัวเครื่องบิน เรือสำราญ รถเช่า ร้านอาหาร รวมถึงแพ็คเกจวันหยุด บริษัทมีกำหนดรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ในวันพุธที่ 3 พฤศจิกายน หลังตลาดปิด โดย Zacks คาดการณ์ยอดขายไว้ที่ $4.16 พันล้าน สูงกว่า $2.64 พันล้านของไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า และสูงสุดในรอบ 7 ไตรมาสที่ผ่าน (ด้วยสถิติตัวเลขคาดการณ์ที่ต่ำกว่าตัวเลขรายงานจริงทั้ง 7 ไตรมาส) ขณะที่คาดการณ์ผลตอบแทนอยู่ที่ $31.56 ต่อหุ้น สูงกว่า $12.27 ของไตรมาสเดียวกันของปีก่อน หลังจากขาดทุนต่อเนื่องในสามไตรมาสก่อนหน้านี้

Booking Holdings เป็นตัวแทนธุรกิจท่องเที่ยวรายใหญ่ที่ดำเนินการผ่านเว็บไซต์จองที่พักและการเดินทางหลายแห่ง ได้แก่ Booking.com, Agoda, OpenTable และ Rentalcars.com รวมถึงบริษัทได้เข้ากิจการสื่อการท่องเที่ยว อย่าง Kayak และ Momondo และ ตามรายงานไตรมาส 2 การจองเที่ยวบินของบริษัทเพิ่มขึ้น 120% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า ขณะที่การจองห้องพักเพิ่มขึ้น 59% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ซึ่งได้รับแรงหนุนหลักจากความคืบหน้าการฉีดวัคซีน และการผ่อนคลายข้อจำกัดการเดินทางของกลุ่มประเทศในแถบยุโรปและสหรัฐฯ ขณะที่การจองห้องพักในเอเชียสำหรับไตรมาส 2 นั้น แย่กว่าในไตรมาสที่ 1

สำหรับในช่วงไตรมาส 3 คาดว่ารายได้ของ Booking Holdings จะโตต่อเนื่องจากไตรมาสที่ 2 จากเทรนด์การเดินทางท่องเที่ยวที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงการผ่อนคลายข้อจำกัดเพิ่มเติมในกลุ่มประเทศยุโรป (กลุ่มประเทศในยุโรปตะวันตกมีอัตราฉีดวัคซีนแซงหน้าสหรัฐฯ) รวมถึงบางพื้นที่ของกลุ่มประเทศในแถบเอเชีย โดยนักวิเคราะห์ของ Jefferies ได้มีการปรับเพิ่มเป้าหมายราคาของ Booking Holdings อยู่ที่ “Buy” จาก $2,800.00 เป็น $2,850.00 อย่างไรก็ตามจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นจากเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลต้าในช่วงปลายของไตรมาส 3 อาจเป็นปัจจัยฉุดรายได้โดยรวมของบริษัท

Booking Holdings: รายงานรายได้ไตรมาส 3

อย่างไรก็ตาม แม้ผลประกอบการของบริษัทจะลดต่ำลงอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเทียบกับช่วงก่อนการระบาดของ Covid-19 แต่ราคาหุ้นของบริษัทกลับขยับขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากสภาพคล่องที่ล้นเกินในตลาดจากมาตรการกระตุ้นของธนาคารกลาง (มีเฮดจ์ฟันด์ 100 กอง ที่ถือหุ้นบริษัทก่อนสิ้นไตรมาส 2) ตั้งแต่ต้นปีจนถึงตอนนี้ราคาหุ้นบริษัทโตขึ้นกว่า 11.78% และตอนนี้ซื้อขายกันอยู่ที่บริเวณ high ไตรมาส 2 ที่ $2,480.00 ต่ำกว่า high รอบ 52 สัปดาห์ที่ทำไว้ที่ $2,540.00 ดังนั้นหากผลประกอบการออกมาดี แนวต้านแรกจะอยู่ที่ $2,540 และเป้าหมายถัดไปจะอยู่ที่เส้นกรอบบนของชาแนล หรือระดับ Fibo 161.8 ที่ $2,800 (ลากจาก high ไตรมาส 1 ไปหา low ไตรมาส 2) ในทางกลับกัน หากผลประกอบการออกมาผิดคาด จะมีแนวรับแรกที่ MA200 ที่ $2,295 และแนวรับถัดไปที่โซน low ของไตรมาส ที่ $2,060.00

แม้ภาพรวมทั่วโลกจะมีการผ่อนคลายมาตรการเดินทางมากขึ้น แต่จำนวนผู้ผู้ติดเชื้อยังคงสูง ตัวอย่างเช่น  ประเทศไทย ที่ประกาศเปิดรับนักท่องเที่ยวจาก 63 ประเทศ เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ที่ผ่าน ในขณะที่จำนวนผู้ติดเชื่อรายวันภายในประเทศ ล่าสุดอยู่ที่ 7,574 ราย (2 พฤศจิกายน) ด้วยอัตราการฉีดวัคซีนเข็มแรกที่ 64.28% และผู้ที่ฉีดครบ 2 เข็มอยู่ที่ 47.20% ทั้งนี้พบว่าพื้นที่จังหวัดท่องเที่ยวหลายแห่งอย่างเชียงใหม่และพื้นที่ภาคใต้ยังคงวิกฤติ และหากพบการติดเชื้อเพิ่มขึ้นหลังการเปิดประเทศ ก็อาจเสี่ยงที่รัฐบาลจะตัดสินใจปิดประเทศอีกครั้ง

คลิกเพื่อดู ปฏิทินเศรษฐกิจ หรือ สัมมนาออนไลน์ฟรี 

Chayut Vachirathanakit
Market Analyst – HF Educational Office – Thailand

คำเตือน: เนื้อหานี้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อการสื่อสารการตลาดทั่วไป เพื่อเป็นการให้ข้อมูลข่าวสารเท่านั้น และไม่ถือเป็นการวิจัยเพื่อการลงทุนอิสระ ไม่มีส่วนหนึ่งส่วนใดของการสื่อสารนี้ที่ประกอบด้วย หรือควรถูกพิจารณาว่าประกอบด้วย คำแนะนำการลงทุน หรือการชักชวนลงทุน หรือการชักชวนเพื่อวัตถุประสงค์ของการซื้อหรือขายตราสารทางการเงินใดๆ ข้อมูลทั้งหมดถูกรวบรวมจากแหล่งที่เชื่อถือได้ และทุกข้อมูลประกอบด้วยตัวบ่งชี้ผลงานในอดีต ไม่ได้เป็นการรับประกันหรือเป็นตัวบ่งชี้ที่น่าเชื่อถือสำหรับผลงานในอนาคต ผู้ใช้พึงทราบว่าการลงทุนใดๆ ในผลิตภัณฑ์ที่ใช้ Leveraged มีความไม่แน่นอนในระดับหนึ่ง และการลงทุนในลักษณะนี้มีความเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงที่สูง ซึ่งผู้ใช้ต้องรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว ทางเราไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียใดๆ ที่เกิดจากการลงทุนโดยใช้ข้อมูลที่เกิดจากการสื่อสารนี้ การสื่อสารนี้จะต้องไม่ถูกผลิตซ้ำหรือแจกจ่ายต่อ โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากทางเรา