“ราคาปุ๋ยสูงอยู่แล้วก่อนสงคราม ตอนนี้มันอยู่ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ท่ามกลางอุปทานของรัสเซียที่ลดลงอย่างรวดเร็ว… ผลก็คือราคาปุ๋ยตอนนี้อยู่ที่สามถึงสี่เท่าของในปี 2020”—— ผู้ร่วมเขียนบทความ (ของ Wall Street Journal) Jon Emont และ Silvina Frydlewsky
การคว่ำบาตรรัสเซียภายหลังการรุกรานยูเครนทำให้การขาดแคลนสินค้าโภคภัณฑ์และอาหารแย่ลงไปอีก ในบรรดาสินค้าโภคภัณฑ์เหล่านี้ การห้ามส่งออกก๊าซของรัสเซียไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อตลาดน้ำมันเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อภาคการเกษตรอีกด้วย นั่นเป็นเพราะ ก๊าซธรรมชาติเป็นแหล่งสำคัญของการผลิตปุ๋ย และเกษตรกรก็ใช้มันเพื่อเพิ่มการผลิตพืชผล
รูปที่ 1: ผู้ส่งออกและนำเข้าปุ๋ยในปี 2020 แหล่งที่มา：OEC.World
ตามที่ บริษัทวิจัยทางการเงิน CFRA ระบุว่า มากกว่า 1 ใน 3 ของการผลิตโปแตชทั่วโลกถูกควบคุมโดยรัสเซียและพันธมิตรในเบลารุส ในขณะที่อดีตเพียงผู้เดียวควบคุมการผลิตอาหารจากพืชที่ใช้ไนโตรเจนเป็นส่วนประกอบ 14% แม้ว่าสหรัฐอเมริกาจะพึ่งพาปุ๋ยของรัสเซียน้อยกว่า ซึ่งมีการนำเข้าเพียง 9% และการผลิตในประเทศเองก็แข็งแกร่ง ราคาที่สูงขึ้นนั้นไม่สามารถป้องกันได้ เนื่องจาก ราคาที่สูงขึ้นในตลาดโลกอาจแปลเป็นราคาที่ใกล้เคียงกับการเพิ่มขึ้นในตลาดสหรัฐฯ
รูปที่ 2: ดัชนีราคาปุ๋ย แหล่งที่มา：YCharts
ข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นว่าดัชนีราคาปุ๋ย ซึ่งพิจารณาราคาเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหินฟอสเฟตธรรมชาติ ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม และไนโตรเจน อยู่ที่ 196.86 เพิ่มขึ้นมากกว่า 96% เมื่อเทียบเป็นรายปี มันเกินระดับในช่วงวิกฤตอาหารและพลังงานในปี 2008
อุปสงค์ทั่วโลกที่แข็งแกร่งและราคาธาตุอาหารพืชผลที่พุ่งสูงขึ้น มีแนวโน้มที่จะส่งผลดีต่อผู้ผลิตปุ๋ยทางการเกษตรและผู้จัดจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง เช่น CFIndustries บริษัทส่วนใหญ่ผลิตไนโตรเจน ซึ่งมีผลผลิตและปริมาณสารอาหารมากที่สุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ NPK (ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม) ข่าวล่าสุดแสดงให้เห็นว่า CFIndustries กำลังเร่งจัดส่งปุ๋ยท่ามกลางการหยุดชะงักของอุปทานเป็นเวลานาน เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้น บริษัทต้องเลื่อนงานบำรุงรักษาโรงงานออกไปเป็นช่วงครึ่งหลังของปี เนื่องจากผลผลิตอาจไม่ได้ผลในขณะนี้ จึงต้องใช้เวลาระยะหนึ่งเพื่อบรรเทาปัญหาการขาดแคลนอุปทาน ดังนั้นราคาจึงยังคงสูงขึ้น เช่นเดียวกับราคาหุ้นของบริษัท
การวิเคราะห์ทางเทคนิค：
ในทางเทคนิค #CFIndustries อยู่ในแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่งนับตั้งแต่ดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดวันที่ 15 มีนาคม 2020 ที่ 19.68 ดอลลาร์ สองปีต่อมา ณ ราคาปิดเมื่อวันศุกร์ ยอดรวมเพิ่มขึ้นมากกว่า 450% แท่งเทียนยังคงติดอยู่ที่เส้นบนของ Bollinger Bands ซึ่งบ่งชี้ถึงความต่อเนื่องของแนวโน้ม ในระยะใกล้ แนวต้านอยู่ที่ $114.45-$119.30 ตามด้วย $126.50 แต่เส้นกึ่งกลางของ Bollinger Bands ที่ $94.90 เป็นระดับแนวรับที่ใกล้ที่สุด การทะลุแนวรับนี้อาจขยายโมเมนตัมขาลงไปยังเส้นบนสุดของช่องสัญญาณขาขึ้นและโซนบรรจบที่ $82.60 ถึง $84.30
คลิกเพื่อดู ปฏิทินเศรษฐกิจ หรือ สัมมนาออนไลน์ฟรี
Larince Zhang
Market Analyst
คำเตือน: เนื้อหานี้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อการสื่อสารการตลาดทั่วไป เพื่อเป็นการให้ข้อมูลข่าวสารเท่านั้น และไม่ถือเป็นการวิจัยเพื่อการลงทุนอิสระ ไม่มีส่วนหนึ่งส่วนใดของการสื่อสารนี้ที่ประกอบด้วย หรือควรถูกพิจารณาว่าประกอบด้วย คำแนะนำการลงทุน หรือการชักชวนลงทุน หรือการชักชวนเพื่อวัตถุประสงค์ของการซื้อหรือขายตราสารทางการเงินใดๆ ข้อมูลทั้งหมดถูกรวบรวมจากแหล่งที่เชื่อถือได้ และทุกข้อมูลประกอบด้วยตัวบ่งชี้ผลงานในอดีต ไม่ได้เป็นการรับประกันหรือเป็นตัวบ่งชี้ที่น่าเชื่อถือสำหรับผลงานในอนาคต ผู้ใช้พึงทราบว่าการลงทุนใดๆ ในผลิตภัณฑ์ที่ใช้ Leveraged มีความไม่แน่นอนในระดับหนึ่ง และการลงทุนในลักษณะนี้มีความเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงที่สูง ซึ่งผู้ใช้ต้องรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว ทางเราไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียใดๆ ที่เกิดจากการลงทุนโดยใช้ข้อมูลที่เกิดจากการสื่อสารนี้ การสื่อสารนี้จะต้องไม่ถูกผลิตซ้ำหรือแจกจ่ายต่อ โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากทางเรา
