กระแสการลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด มาพร้อมกับสถิติ all time high ของดัชนีหุ้นสหรัฐ โดยดัชนี Dow Jones ขึ้นมาอยู่เหนือ 27,000 เป็นครั้งแรกเมื่อวันพฤหัสบดี (11 ก.ค.) S&P 500 แตะระดับ 3,000 ครั้งแรกเมื่อต้นเดือน ก.ค. (4 ก.ค.) ส่วน Nasdaq เองก็ขึ้นมาเหนือ 8,200 เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเช่นกัน
สิ่งที่ต้องจับตาสัปดาห์นี้คือการประกาศผลประกอบการไตรมาส 2 ของกลุ่มบริษัทใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มการเงิน ซึ่งอาจเป็นอีกสัปดาห์ที่ส่งผลให้ดัชนีหุ้นสหรัฐไปต่อ หรือย่อจาก high ที่เห็นอยู่ในตอนนี้ โดยปฏิทินรายงานผลประกอบการมีดังนี้
วันอังคาร ที่ 16 ก.ค. Bank of America Corporation (BAC), BlackRock (BLK), Netflix (NFLX),
วันพุธ ที่ 17 ก.ค. Goldman Sachs Group (GS), Interactive Brokers Group (IBKR), Johnson & Johnson (JNJ), The Charles Schwab Corporation (SCHW), United Airlines Holdings (UAL),
วันพฤหัสบดี ที่ 18 ก.ค. Abbott Laboratories (ABT), American Express Company (AXP), eBay (EBAY), Ericsson (ERIC), Morgan Stanley (MS),
วันศุกร์ ที่ 19 ก.ค. E*TRADE (ETFC), Microsoft (MSFT), Philip Morris(PM)
ตลาดหุ้นสหรัฐจะไปต่อได้หรือไม่ ต้องดูหลังจากเฟดประชุมเรื่องอัตราดอกเบี้ยในวันที่ 30 – 31 ก.ค.
คลิก ที่นี่ เพื่อดูปฏิทินเศรษฐกิจ
Chayut Vachirathanakit
Market Analyst – HF Educational Office – Thailand
คำเตือน: บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อการสื่อสารด้านการตลาดทั่วไปเท่านั้น ไม่ใช่การวิจัยเพื่อการลงทุน และไม่มีส่วนหนึ่งส่วนใดของบทความนี้ที่ประกอบด้วยคำแนะนำเพื่อการลงทุนหรือถูกพิจรณาว่าเป็นคำแนะนำเพื่อการลงทุน หรือชักชวนให้ซื้อหรือขายผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ข้อมูลทั้งหมดนี้ถูกรวบรวมจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ และทุกข้อมูลประกอบด้วยผลงานในอดีตที่ไม่สามารถรับประกัน หรือชี้วัดผลงานในอนาคตได้ ผู้ใช้พึงเข้าใจว่าการลงทุนในผลิตภัณฑ์ที่มี Leveraged มีลักษณะเฉพาะที่มีระดับความเสี่ยงสูง ซึ่งผู้ใช้งานจะต้องแบกรับความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว ทางเราจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายจากการลงทุนใดๆ ที่เกิดจากการนำข้อมูลนี้ไปใช้ ข้อมูลนี้จะต้องไม่มีการผลิตซ้ำหรือแจกจ่ายโดยปราศจากการได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร
