GBPUSD, H4 – ถือเป็นคู่ที่น่าจับตาหลังจากนี้ เพราะนอกจากสงครามการค้าที่สหรัฐได้เริ่มต้นใช้มาตรการภาษี 15% ในเฟสแรกสำหรับสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า $112 พันล้าน ซึ่งมีตั้งแต่สินค้าในชีวิตประจำวันจนถึงสินค้าอิเล็กทรอนิคส์ซึ่งจะกระทบกับผู้บริโภคสหรัฐโดยตรง แม้ ทรัมป์ จะออกมาทวีทว่าจะไม่กระทบก็ตาม แต่ก็แนะนำให้ผู้นำเข้าสหรัฐหันไปนำเข้าสินค้าดังกล่าวจากประเทศอื่นแทน เพราะสหรัฐจะไม่ยอมเป็นผู้รับใช้ของจีนอีกต่อไป (แต่ต้องไม่ลืมว่าตอนนี้สหรัฐจ้องใช้นโยบายกำแพงภาษีสำหรับประเทศที่ได้เปรียบดุลการค้าสหรัฐเกินเกณฑ์ที่กำหนด ดังนั้นตัวเลือกในการนำเข้าก็จะเหลือน้อยลง)
เช่นเดียวกับจีนที่เริ่มมีผลบังคับใช้อัตราภาษีใหม่สำหรับสินค้านำเข้าจากสหรัฐมูลค่า $75 พันล้าน
ในฝั่งของอังกฤษเองนั้นจากการประกาศเลื่อนเปิดประชุมสภาของรัฐบาล Boris Johnson ซึ่งถือเป็นการเลื่อนเปิดสภาที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 1945 นำมาซึ่งความขัดแย้งทางการเมืองรอบใหม่ทั้งในสภาและประชาชนที่ไม่พอใจ เพราะเป็นเล่นการเมืองบนประเด็น Brexit
ทันทีที่มีการประกาศเลื่อนเปิดสมัยประชุมสภาเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ทำให้คู่ GBPUSD ร่วงลงจาก high ของวันที่ 1.2286 สู่ low ที่ 1.2155 (มากกว่า 100 pips) และตอนนี้ยังคงเทรดกันที่ต่ำกว่าระดับจิตวิทยา 1.2200
สำหรับในมุมมองเทคนิคอลแล้วคู่นี้ยังคงอยู่ในกรอบขาลงที่มีแนวรับอยู่ที่ 1.2140 และ 1.2110 ส่วนแนวต้านแรกอยู่ที่ 1.2175 หากผ่านขึ้นไปได้จะพบกับแนวต้านจิตวิทยาที่ 1.2200
GBP – 15:30 น. ประกาศตัวเลขดัชนี PMI ภาคการผลิตอาจสร้างความผันผวนให้กับคู่ GBPUSD
คลิก ที่นี่ เพื่อดูปฏิทินเศรษฐกิจ
Chayut Vachirathanakit
Market Analyst – HF Educational Office – Thailand
คำเตือน: บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อการสื่อสารด้านการตลาดทั่วไปเท่านั้น ไม่ใช่การวิจัยเพื่อการลงทุน และไม่มีส่วนหนึ่งส่วนใดของบทความนี้ที่ประกอบด้วยคำแนะนำเพื่อการลงทุนหรือถูกพิจรณาว่าเป็นคำแนะนำเพื่อการลงทุน หรือชักชวนให้ซื้อหรือขายผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ข้อมูลทั้งหมดนี้ถูกรวบรวมจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ และทุกข้อมูลประกอบด้วยผลงานในอดีตที่ไม่สามารถรับประกัน หรือชี้วัดผลงานในอนาคตได้ ผู้ใช้พึงเข้าใจว่าการลงทุนในผลิตภัณฑ์ที่มี Leveraged มีลักษณะเฉพาะที่มีระดับความเสี่ยงสูง ซึ่งผู้ใช้งานจะต้องแบกรับความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว ทางเราจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายจากการลงทุนใดๆ ที่เกิดจากการนำข้อมูลนี้ไปใช้ ข้อมูลนี้จะต้องไม่มีการผลิตซ้ำหรือแจกจ่ายโดยปราศจากการได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร