INTEL – อัพเกรดก่อนรายงาน และ EPS ที่ดีต่อเนื่อง

INTEL, ไทม์เฟรม Day

2019 ถือเป็นปีแห่งสงครามการค้า ที่สอดแทรกด้วยการกีดกันทางด้านเทคโนโลยี ที่คอยทำลายบรรยากาศการค้าตลอดทั้งปี แต่ทั้งหมดได้เริ่มผ่อนคลายลงนับตั้งแต่เดือนตุลาคม หลังจากการเจรจาครั้งสำคัญระหว่างสหรัฐกับจีน กระทั่งมีการลงนามในข้อตกลงทางการค้าเฟสแรกระหว่างสหรัฐกับจีนไปเมื่อช่วงกลางเดือนมกราคม

อย่างไรก็ตามราคาหุ้น INTC ในปีที่ผ่านมาโตกว่า 23.09% ขณะที่ปี 2020 ที่เพิ่งเริ่มต้นไม่ถึงเดือนราคาหุ้นก็ขึ้นมาแล้วถึง 1.17% และกำลังทำราคาสูงสุดในรอบเกือบ 20 ปี โดยส่วนหนึ่งได้รับผลดีจากการที่นักวิเคราะห์จาก Jefferies ได้มีการประเมินใหม่สำหรับหุ้น INTC จากหุ้นที่ทำผลงานได้แย่และควรขายออก มาเป็นหุ้นในกลุ่มกลางๆ ที่สามารถถือได้ พร้อมเปลี่ยนเป้าหมายราคาจาก $40 เป็น $64 และล่าสุดเมื่อคืนนี้ราคาปิดที่ $62.71

เมื่อพูดถึงรายงานผลประกอบการ คงหนีไม่พ้นที่จะต้องพูดถึงรายได้และผลตอบแทนต่อหุ้น โดยรายงานผลประกอบการของ Intel จะออกมาหลังตลาดสหรัฐปิดคืนนี้ ซึ่งคาดการณ์กันว่าผลตอบแทนต่อหุ้นประจำไตรมาสที่ 4 จะอยู่ที่ $1.24 – $1.25 ต่อหุ้น และ Intel เองคาดว่ารายได้น่าจะอยู่ที่ $19.20 พันล้าน หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 3% โดยมีสถิติที่น่าสนใจคือผลตอบแทนต่อหุ้นตลอด 4 ไตรมาสล่าสุด ล้วนออกมาดีกว่าตัวเลขคาดการณ์ทั้ง 4 ไตรมาส

ที่งานมหกรรมเทคโนโลยี CES  ที่ผ่านมา Intel ได้ประกาศเปิดตัวคอมพิวเตอร์แลปท็อปตัวใหม่ ชิปประมวลผลสำหรับเซิร์ฟเว่อร์ รวมไปถึงชิปประมวลผลที่ชื่อ “Tiger Lake” ในขณะที่โอกาสและความต้องการชิปประมวลผลในตลาดยังสามารถโตได้อีก ตามกระแสเทคโนโลยีอย่าง 5G, Big Data (การประมวลผลสำหรับ AI) รวมไปถืง Cloud Computing โดยทั้งหมดนี้จำเป็นจะต้องได้รับการพัฒนาในส่วนของชิปประมวลผลให้มีสมรรถนะที่สูงขึ้น

อย่างไรก็ดี Intel กลับประสบปัญหาความล่าช้าในกระบวนการผลิตชิปประมวลผลขนาด 10nm จนไม่สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดในช่วงเวลาที่เหมาะสมได้ ทำให้ Intel มีแผนที่จะปรับลดราคาชิปประมวลผลของตัวเองในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2020 เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน  และความล่าช้านี้เองที่ทำให้มีข่าวลือว่า Intel อาจจะข้ามการผลิตชิปประมวลผลขนาด 10nm ไปผลิตขนาด 7nm แทน แต่ทาง Intel ได้ออกมาปฎิเสธแล้วว่าไม่เป็นความจริง

สำหรับในมุมมองเทคนิคอลแล้ว การทำ high ใหม่อย่างต่อเนื่อง เป็นที่น่ากังวลว่าหากผลประกอบการณ์ออกมาไม่เป็นไปตามที่นักลงทุนคาดหวัง เป็นไปได้ที่จะมีการเทขายหุ้น Intel หนักหลังการรายงานผลประกอบการคืนนี้ หรือแม้หากผลประกอบการออกมาดี นักวิเคราะห์ก็ยังกังวลว่าอาจมีการเทขายเพื่อทำกำไรเช่นกัน

ขณะที่รูปแบบราคา bearish divergence ที่เริ่มมองเห็นตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมกราคมถูกทำลายลงด้วยความเห็นของนักวิเคราะห์จาก Jefferies ที่ได้ขยับเป้าราคาจาก $40 เป็น $64 อย่างไรก็ตามการที่ราคายิ่งฝืนทะลุ high ขึ้นต่อในระยะนี้จะยิ่งเป็นการเพิ่มระยะความเสี่ยงในขาลงมากขึ้น โดยมีแนวต้านแรกที่มองเห็นตอนนี้อยู่ที่ระดับ Fibonacci 261.8 แถวราคา $65 โดยมีระดับราคา all-time high อยู่ที่ $75.81 (สิงหาคม ปี 2000) สำหรับโซนแนวรับแรกมองเห็นอยู่ที่ high ล่าสุด (2 มกราคม) โซนราคา $60 และมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ $58.80 ในกรณีที่แย่สุดอาจลงไปถึง $55.50

อย่างไรก็ตามหัวใจสำคัญอยู่ที่ตัวเลขรายได้และผลตอบแทนต่อหุ้น ซึ่งหากออกมาดีก็มีโอกาสที่เราจะได้เห็น high ใหม่  อย่างไรก็ตามยังประมาทไม่ได้สำหรับมุมมองเทคนิคอลที่มองเห็น bearish divergence ก่อนหน้านี้ รวมถึง RSI ที่อยู่ในโซน overbought เหนือระดับ 70 แล้ว

คลิก ที่นี่ เพื่อดูปฏิทินเศรษฐกิจ

Chayut Vachirathanakit
Market Analyst – HF Educational Office – Thailand

คำเตือน: บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อการสื่อสารด้านการตลาดทั่วไปเท่านั้น ไม่ใช่การวิจัยเพื่อการลงทุน และไม่มีส่วนหนึ่งส่วนใดของบทความนี้ที่ประกอบด้วยคำแนะนำเพื่อการลงทุนหรือถูกพิจรณาว่าเป็นคำแนะนำเพื่อการลงทุน หรือชักชวนให้ซื้อหรือขายผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ข้อมูลทั้งหมดนี้ถูกรวบรวมจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ และทุกข้อมูลประกอบด้วยผลงานในอดีตที่ไม่สามารถรับประกัน หรือชี้วัดผลงานในอนาคตได้ ผู้ใช้พึงเข้าใจว่าการลงทุนในผลิตภัณฑ์ที่มี Leveraged มีลักษณะเฉพาะที่มีระดับความเสี่ยงสูง ซึ่งผู้ใช้งานจะต้องแบกรับความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว ทางเราจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายจากการลงทุนใดๆ ที่เกิดจากการนำข้อมูลนี้ไปใช้ ข้อมูลนี้จะต้องไม่มีการผลิตซ้ำหรือแจกจ่ายโดยปราศจากการได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร