HSBC, Weekly
HSBC Group ถือเป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปในด้านสินทรัพย์ อย่างไรก็ตาม ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ได้รับผลกระทบและอยู่ภายใต้แรงกดดันจากความตึงเครียดที่เกิดขึ้นระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา หลังจากที่เห็นได้ชัดว่าการประกาศสนับสนุนกฎหมายความมั่นคงของฮ่องกงที่มุ่งสร้างสภาพแวดล้อมที่มั่นคงสำหรับธุรกิจ และเสริมสร้างความเข้มแข็ง ความเชื่อมั่นของนักลงทุน เพิ่งจะวันนี้เอง ผู้อยู่อาศัยในฮ่องกงคนแรกถูกจำคุกเป็นเวลา 9 ปีในข้อหา “ก่อการร้ายและยุยงให้แยกตัวออกจากกัน” มุมมองระยะยาวสำหรับกรอบกฎหมายและการเงินของเมืองยังคงเป็นประเด็นสำคัญ
จากคำแถลงของประธาน HSBC ซึ่งเขามั่นใจว่าธนาคารจะกลับมาจ่ายเงินปันผลโดยเร็วที่สุด หุ้นของธนาคารเพิ่มขึ้น 4% นอกจากนี้ เขายังกล่าวอีกว่าอัตราผลตอบแทนสามารถช่วยให้ได้รับผลตอบแทนที่เป็นบวกด้วยเงินปันผลเพียงเล็กน้อยที่ 0.22 ดอลลาร์ โดยให้ผลตอบแทนประมาณ 4% ที่ราคาปัจจุบัน แนวโน้มเชิงบวกของธนาคารอาจเชื่อมโยงกับการมีส่วนร่วมที่เพิ่มขึ้นของผู้ถือหุ้นหลัก Ping An Asset Management ซึ่งเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว
ในส่วนของธนาคาร และเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงที่ธนาคารหลายแห่งได้ตัดสินใจที่จะเริ่มต้นเป็นธนาคารออนไลน์เนื่องจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ธนาคารได้กล่าวว่าธนาคารมีแผนที่จะค่อยๆ ลดการดำเนินงานวาณิชธนกิจ และปรับปรุงการดำเนินงานในสหรัฐอเมริกาอย่างมีนัยสำคัญ รวมถึงยุโรปซึ่งจะเห็นจำนวนพนักงานลดลง 35,000 คน โดยจะมุ่งเน้นที่ธุรกิจหลักในเอเชียต่อไป
คู่แข่งในสัปดาห์นี้ ในยุโรป (Lloyds¹, Barclays², Nat West และ UniCredit) ได้รายงานตัวเลขที่ดี โดย HSBC มีกำหนดรายงานในวันจันทร์ที่ 2 สิงหาคม ความคาดหวังของตลาดมีไว้เพื่อให้ HSBC เป็นไปตามนั้น แม้ว่าราคาหุ้นจะพลิกผันมาระยะหนึ่งแล้ว นักวิเคราะห์ 7 คนจาก 21 คน มีความเห็นสำหรับหุ้นบริษัทเป็น Buy หรือ Strong Buy โดย 5 คนจาก 21 คนแนะนำตัวเลือก Underperform (ทำผลงานได้ไม่ดี) หรือ Sell ราคาเป้าหมายอยู่ในกรอบที่ใหญ่ และราคาหุ้นสะท้อนถึงช่วงกว้างนั้น ช่วง 52 สัปดาห์ลดลงเหลือ 2.40 และสูงถึง 4.62 หลังจากประกาศลดตำแหน่งงานในไตรมาสที่ 1 วันนี้ (30 ก.ค.) เปิดราคาต่ำลงที่ 3.96
ในทางเทคนิค ราคาหุ้นมี แนวโน้มลดลง จาก 2 เดือนที่ผ่านมา ทำลาย EMA 21 วันในวันที่ 4 มิถุนายน ที่ 4.434 และทะลุระดับ 4.00 ที่สำคัญ 17 กรกฎาคม และพยายามรักษาระดับนี้ใน 9 วันทำการถัดไปก่อนหน้า รายได้ที่ปล่อยออกมา กระแสข่าวก็ติดลบเช่นกันในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งไม่ได้ช่วยต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน³ หากระดับ 4.00 ทางจิตวิทยาที่สำคัญไม่คงอยู่ ระดับแนวรับหลักถัดไปจะอยู่ที่ 3.75, 3.50 และ 3.25 ตัวเลขกลมและระดับฟีโบนักชี 38.2, 50.0 และ 61.8 ที่สำคัญ หาก 4.00 พิสูจน์แนวรับ แนวต้านจะอยู่ที่ 4.07 (รายวัน 21 EMA) 4.20 (รายสัปดาห์ 21 EMA), 4.35 และสูงสุดในปี 2021 ที่ 4.62
¹https://uk.finance.yahoo.com/news/lloyds-bank-hy-q2-profit-revenue-dividend-embark-071527699.html
³https://uk.finance.yahoo.com/news/hsbc-faces-questions-over-disclosure-150005127.html
คลิกเพื่อดู ปฏิทินเศรษฐกิจ หรือ สัมมนาออนไลน์ฟรี
Stuart Cowell
Head Market Analyst
คำเตือน: เนื้อหานี้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อการสื่อสารการตลาดทั่วไป เพื่อเป็นการให้ข้อมูลข่าวสารเท่านั้น และไม่ถือเป็นการวิจัยเพื่อการลงทุนอิสระ ไม่มีส่วนหนึ่งส่วนใดของการสื่อสารนี้ที่ประกอบด้วย หรือควรถูกพิจารณาว่าประกอบด้วย คำแนะนำการลงทุน หรือการชักชวนลงทุน หรือการชักชวนเพื่อวัตถุประสงค์ของการซื้อหรือขายตราสารทางการเงินใดๆ ข้อมูลทั้งหมดถูกรวบรวมจากแหล่งที่เชื่อถือได้ และทุกข้อมูลประกอบด้วยตัวบ่งชี้ผลงานในอดีต ไม่ได้เป็นการรับประกันหรือเป็นตัวบ่งชี้ที่น่าเชื่อถือสำหรับผลงานในอนาคต ผู้ใช้พึงทราบว่าการลงทุนใดๆ ในผลิตภัณฑ์ที่ใช้ Leveraged มีความไม่แน่นอนในระดับหนึ่ง และการลงทุนในลักษณะนี้มีความเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงที่สูง ซึ่งผู้ใช้ต้องรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว ทางเราไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียใดๆ ที่เกิดจากการลงทุนโดยใช้ข้อมูลที่เกิดจากการสื่อสารนี้ การสื่อสารนี้จะต้องไม่ถูกผลิตซ้ำหรือแจกจ่ายต่อ โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากทางเรา
