Moderna, Inc. (#Moderna) หนึ่งในบริษัทผู้ผลิตวัคซีน Covid-19 ด้วย mRNA ที่ได้รับการอนุมัติให้ใช้ในกรณีฉุกเฉินเป็นบริษัทแรกๆ ซึ่งวัคซีนของบริษัทถูกฉีดไปแล้วหลายล้านโดส และได้ข้อตกลงจัดหาวัคซีนมูลค่าหลายร้อยล้านโดสให้กับประเทศต่างๆ ทั่วโลก คาดว่าบริษัทจะรายงานผลประกอบการไตรมาสสิ้นสุดเดือนมิถุนายนใน วันที่ 5 สิงหาคม ก่อนตลาดเปิด
โดยการคาดการณ์ของ Zacks คาดว่า Moderna จะมียอดขายในไตรมาสล่าสุดนี้อยู่ที่ $4.29 พันล้าน ซึ่งสูงกว่าไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มียอดขายเพียง $66.35 ล้าน คิดเป็นการก้าวกระโดดกว่า 6,368.43% ขณะที่ยอดขายของไตรมาสที่ผ่านมาอยู่ที่ $1,937.00 ล้าน ในส่วนของผลตอบแทนต่อหุ้นสำหรับไตรมาสนี้คาดว่าจะอยู่ที่ $6.01 สูงกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อนถึง 2,038.71% ($-0.31 ต่อหุ้น)
แม้ก่อนหน้านี้การฉีดวัคซีนเริ่มชะลอในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจหลัก แต่ด้วยการกลับมาระบาดของสายพันธุ์เดลต้า ส่งผลให้ความต้องการเข็มกระตุ้นที่มีประสิทธิภาพยังคงดำเนินต่อไป ตามรายงานของ Financial Times ทั้ง Moderna และ Pfizer ได้ข้อตกลงส่งมอบวัคซีน 2.1 พันล้านโดส จนถึงปี 2023 ให้กับกลุ่มอียู หลังจากผลการทดลองเฟสสามพบว่า Moderna และ Pfizer นั้นมีประสิทธิภาพสูงกว่า Oxford/AstraZeneca และ Johnson & Johnson (ซึ่งมีราคาถูกกว่า) และด้วยความต้องที่สูงขึ้นนี้เอง ส่งผลให้ Moderna สามารถขึ้นราคาต่อโดสสำหรับอียูจาก $22.60 เป็น $25.50 แต่ต่ำกว่า $28.50 ที่เคยขายก่อนหน้านี้ เนื่องจากคำสั่งซื้อที่ใหญ่กว่า ทั้งนี้คาดกันว่า Moderna จะมียอดขายวัคซีนอยู่ที่ $30 พันล้าน
ในขณะที่อียูมีเป้าหมายฉีดวัคซีนให้ครบโดสอย่างน้อย 70% ของประชากรที่เป็นผู้ใหญ่ภายในสิ้นเดือนกันยายน อิสราเอลได้เริ่มการฉีดเข็มกระตุ้นไปแล้ว สำหรับผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ส่วนอังกฤษจะเริ่มฉีดเข็มกระตุ้นในเดือนหน้า
ในมุมมองของราคาหุ้น ตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมาราคาหุ้นของ Moderna ขึ้นมาแล้วกว่า 231.78% ด้วยสถิติ all-time high ใหม่เมื่อวานนี้ที่โซน 365.00 ก่อนจะลดลงมาปิดที่ 346.94 นั่นหมายความว่าหากวันพฤหัสบดีนี้รายงานรายได้ออกมาดี เราจะมีโอกาสได้เห็นการทำ all-time high ใหม่เหนือ 365.00 ขณะที่ในไทม์เฟรม Day มองเห็น RSI อยู่ในโซน overbought และกำลังขยับลง ขณะที่ไทม์เฟรมเล็กอย่าง H1 และ H4 มองเห็น bearish divergence นั่นหมายถึงราคาอาจมีการย่อก่อนวันรายงานรายได้ และหากรายได้ออกมาไม่ดีเราอาจได้เห็นการร่วงต่อเนื่อง ซึ่งจะมีแนวรับสำคัญอยู่ที่โซนจิตวิทยา 300.00
Siemens AG (#Siemens) ยักษ์ใหญ่ด้านอุตสาหกรรมของเยอรมนีและเป็นหนึ่งในบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่มีกำหนดรายงานรายได้ไตรมาส 3 ในวันพฤหัสบดีนี้ ก่อนตลาดเปิด ซึ่ง Zacks คาดการณ์ยอดขายสำหรับไตรมาสนี้อยู่ที่ $17.98 พันล้าน สูงกว่า $14.85 พันล้านของไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า คิดเป็นอัตราการเติบโตที่ 33.87% ขณะที่ผลตอบแทนต่อหุ้นคาดว่าจะอยู่ที่ $0.83 สูงกว่า $0.62 ของไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า
Bloomberg รายงานเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาว่า Siemens ได้ประกาศแผนซื้อคืนหุ้นมูลค่า 3 พันล้านยูโร ($3.6 พันล้าน) โดยเริ่มจากปีหน้าไปจนถึงปี 2026 นอกจากนี้บริษัทยังกล่าวอีกว่ากำลังตั้งเป้าหมายการเข้าซื้อกิจการเพื่อเข้าสู่ตลาดใหม่ ที่สามารถสร้างรายได้สูงถึงถึง 120 พันล้านยูโร โดยบริษัทตกลงที่จะจ่าย 700 ล้านดอลลาร์เพื่อซื้อบริษัทสัญชาติอเมริกัน SupplyFrame Inc. ซึ่งเป็นบริษัทเกี่ยวกับแพลตฟอร์มดิจิทัลที่เชี่ยวชาญในการเชื่อมต่อบริษัทต่างๆ ตลอดห่วงโซ่อุปทานอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจะช่วยลูกค้าลดต้นทุน เพิ่มความคล่องตัว และตัดสินใจอย่างชาญฉลาด โดยคาดว่าข้อตกลงจะบรรลุในปลายปีนี้
สำหรับราคาหุ้นของ Siemens ได้ลดลงจากบริเวณ high ของปี หลังการรายงานรายได้ไตรมาส 2 เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และมาเด้งที่เส้น MA200 เมื่อปลายเดือนกรกฎาคม และสัปดาห์นี้ราคาสามารถขึ้นไปยืนเหนือชาแนลขาลงและเส้น MA50 อีกครั้ง หากราคาสามารถประคองตัวเหนือ MA50 และรายได้ออกมาดี จะมีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 139.00 และเป้าหมายถัดไปอยู่ที่โซน high ของปี ที่ 145.00 ขณะที่หากรายได้ออกมาไม่ดีจะมีแนวรับสำคัญอยู่ที่ MA200 ที่ 129.00 และแนวรับถัดไปอยู่ที่โซน low ล่าสุดที่ 125.00
คลิกเพื่อดู ปฏิทินเศรษฐกิจ หรือ สัมมนาออนไลน์ฟรี
Chayut Vachirathanakit
Market Analyst – HF Educational Office – Thailand
คำเตือน: เนื้อหานี้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อการสื่อสารการตลาดทั่วไป เพื่อเป็นการให้ข้อมูลข่าวสารเท่านั้น และไม่ถือเป็นการวิจัยเพื่อการลงทุนอิสระ ไม่มีส่วนหนึ่งส่วนใดของการสื่อสารนี้ที่ประกอบด้วย หรือควรถูกพิจารณาว่าประกอบด้วย คำแนะนำการลงทุน หรือการชักชวนลงทุน หรือการชักชวนเพื่อวัตถุประสงค์ของการซื้อหรือขายตราสารทางการเงินใดๆ ข้อมูลทั้งหมดถูกรวบรวมจากแหล่งที่เชื่อถือได้ และทุกข้อมูลประกอบด้วยตัวบ่งชี้ผลงานในอดีต ไม่ได้เป็นการรับประกันหรือเป็นตัวบ่งชี้ที่น่าเชื่อถือสำหรับผลงานในอนาคต ผู้ใช้พึงทราบว่าการลงทุนใดๆ ในผลิตภัณฑ์ที่ใช้ Leveraged มีความไม่แน่นอนในระดับหนึ่ง และการลงทุนในลักษณะนี้มีความเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงที่สูง ซึ่งผู้ใช้ต้องรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว ทางเราไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียใดๆ ที่เกิดจากการลงทุนโดยใช้ข้อมูลที่เกิดจากการสื่อสารนี้ การสื่อสารนี้จะต้องไม่ถูกผลิตซ้ำหรือแจกจ่ายต่อ โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากทางเรา
