หลังจากการแตกหุ้นของ Apple Inc. และ Tesla Inc. ในเดือนสิงหาคม 2020 และ Alphabet เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2022 Amazon ได้ประกาศเมื่อคืนนี้ว่ามีแผนที่จะแตกหุ้น 20 ต่อ 1 และซื้อคืนสูงถึง 10 พันล้านดอลลาร์ในวันที่ 27 พฤษภาคมด้วย การซื้อขายบนพื้นฐานการแตกหุ้นใหม่จะเริ่มในวันที่ 6 มิถุนายน แม้ว่าจะต้องรอการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นในการประชุมสามัญประจำปีของ Amazon ในเดือนพฤษภาคมเสียก่อน ก่อนจะสามารถดำเนินการตามแผนดังกล่าว
ในการซื้อขายก่อนตลาดเปิด (วันพฤหัสบดี) หุ้นของ Amazon มีการซื้อขายที่ 2,708 ในขณะที่รายงานแตกหุ้นพวกเขาได้รับมากกว่า 5% โดยทั่วไป การประกาศการแตกหุ้นจากยักษ์ใหญ่เหล่านี้มีแนวโน้มที่จะเพิ่มโมเมนตัมเชิงบวกให้กับวอลล์สตรีท โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะที่เศรษฐกิจโลกพยายามที่จะออกมาจากการแพร่ระบาด แต่ในขณะเดียวกันตลาดกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากรัสเซียทำสงครามรุนแรงขึ้นกับยูเครน นักลงทุนสามารถเห็นได้ว่ากำลังเชียร์การตัดสินใจของยักษ์ใหญ่ เนื่องจากมันมักจะถูกตีความว่าเป็นโอกาสที่เพิ่มสภาพคล่องในการซื้อขายตามธรรมเนียมดั้งเดิม รวมถึงโอกาสของการลงทุนรายย่อย และปริมาณการซื้อขาย
มูลค่าหุ้นของ Amazon ได้หายไปมากกว่า 18% ในปี 2022 และลดลงโดยรวม 27% ตั้งแต่ปี 2021 ตามประกาศ แผนการซื้อคืนมูลค่า 10 พันล้านดอลลาร์มาแทนที่แผนก่อนหน้า 5 พันล้านดอลลาร์ซึ่งมีการซื้อคืนแล้ว 2.12 พันล้านดอลลาร์ ในขณะที่ การแตกหุ้นจะขึ้นอยู่กับการอนุมัติของผู้ถือหุ้นในเดือนพฤษภาคม หากผู้ถือหุ้นอนุมัติ ราคาจะลดลงเหลือประมาณ 150 ดอลลาร์ต่อหุ้น นั่นน่าจะดึงดูดนักลงทุนรายย่อยรายใหม่ และอาจถึงขั้นได้รับตำแหน่งใน DOW
ตรงกันข้ามกับกรณีของ Tesla และ Apple ซึ่งดำเนินการแตกหุ้นออกเนื่องจากการเติบโตขึ้นอย่างมากในหุ้นของพวกเขา นี่เป็นความพยายามของ Amazon ที่จะเพิ่มราคาหุ้นท่ามกลางต้นทุนการดำเนินงานที่หนักอึ้ง และความกังวลเกี่ยวกับการรักษาพนักงานเอาไว้ และนั่นเป็นเหตุผลหลักว่าทำไม Amazon จึงตัดสินใจแตกหุ้นเป็น ครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1999 แม้ว่าจะมีการแข็งค่าขึ้น 220% ตั้งแต่ปี 2017
บริษัทมหาชนทั้งหลายมีจำนวนหุ้นที่ออกจำหน่ายอยู่แล้ว การแบ่งหุ้นคือการเพิ่มจำนวนหุ้นจากบริษัทโดยการออกหุ้นเพิ่มเติมหลังจากคณะกรรมการบริษัทมีคำวินิจฉัย หากบริษัทประกาศการแบ่งหุ้นแบบ 4 ต่อ 1 บริษัทจะมอบหุ้นเพิ่มเติมให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม 3 หุ้นต่อ 1 หุ้นเริ่มต้นที่พวกเขามีอยู่ ตัวอย่างเช่น หากบริษัทมีหุ้นที่คงค้างอยู่ 10 ล้านหุ้นก่อนการแตกหุ้น บริษัทจะมีจำนวนหุ้นคงค้าง 40 ล้านหุ้นหลังจากการแบ่งแบบ 4-ต่อ-1 ในขณะเดียวกันราคาของหุ้นเดิมจะถูกแบ่งออกตามลําดับ กล่าวคือ ถ้ามันมีมูลค่า $100 ก่อนการแตกหุ้น ก็จะซื้อขายที่ $25 หลังจากนั้น ดังนั้นเมื่อจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วเพิ่มขึ้น ราคาจะลดลงแต่มูลค่าตลาดของบริษัทยังคงที่
การกระทำดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อทำให้หุ้นของบริษัทมีราคาที่ไม่แพงสำหรับนักลงทุนรายย่อย ซึ่งจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องในหุ้นได้ในที่สุด
มีผลกระทบต่อบริษัทหรือไม่?
ก็ไม่เชิง เนื่องจากมูลค่าตลาดของบริษัทยังคงไม่เปลี่ยนแปลง นอกจากราคาหุ้นที่ต่ำลงและการเพิ่มขึ้นของราคาตามธรรมเนียมแล้วหลังจากการแตกหุ้น แทบไม่มีความหมายสำหรับบริษัทเลย ในขณะที่มันมีความหมายมากสำหรับนักลงทุนและพนักงาน เนื่องจากทำให้หุ้นมีราคาไม่แพงสำหรับนักลงทุน ในขณะที่ให้พนักงาน มีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการจัดการส่วนได้เสียในบริษัท
แต่สิ่งที่สำคัญในกรณีของ Amazon คือการซื้อคืน $10,000 ล้าน! การซื้อหุ้นคืนหรือที่เรียกว่าการซื้อคืนหุ้น เป็นการดำเนินการขององค์กรเพื่อซื้อหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วของตนเองคืนจากผู้ถือหุ้นเดิม ซึ่งปกติแล้วจะมีราคาสูงกว่าราคาตลาดในปัจจุบัน อาจเป็นทางเลือกหนึ่งในการคืนเงินให้ผู้ถือหุ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพทางภาษี ดังนั้น เหตุผลหลักสามประการในการซื้อคืนคือ:
- การซื้อคืนหุ้นช่วยให้บริษัทรวบรวมความเป็นเจ้าของได้
- เมื่อตลาดมองโลกในแง่ร้าย บริษัทต่างๆ จะใช้การซื้อคืนเพื่อเพิ่มมูลค่าหุ้น
- การซื้อคืนสามารถทำให้บริษัทต่างๆ ดูมีฐานะทางการเงินที่ดีขึ้น และดึงดูดนักลงทุนได้มากขึ้น
สิ่งนี้หมายความว่าอย่างไรสำหรับตลาดหุ้น?
จากการวิจัยของ The Wall Street Journal โดยปกติหุ้นใน USA500 เพิ่มขึ้น 5% ในปีนั้น หลังจากการแตกหุ้น ซึ่งรวมถึงการเพิ่มขึ้นทันที 2.5% หลังจากการประกาศ ตามการวิจัยจาก Nasdaq Inc. ในการแตกหุ้นระหว่างปี 2012 ถึง 2018
ปีนี้สิ่งต่างๆ อาจแตกต่างกันเล็กน้อย เนื่องจากมีการแสดงปฏิกิริยาที่ผิดปกติในตลาดหุ้นเนื่องจากปัจจัยภายนอก ซึ่งรวมถึงองค์ประกอบทางจิตวิทยาในช่วงปีที่ตกต่ำ ซึ่งเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนและความเสี่ยง
อย่างไรก็ตาม โดยทั่วไปแล้ว การแตกหุ้นจะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นในวงกว้าง โดยที่ค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม Dow Jones เป็นข้อยกเว้น เนื่องจากมูลค่าไม่ได้ถูกถ่วงน้ำหนักโดยองค์ประกอบของมูลค่าตลาด แต่ด้วยมูลค่าราคาหุ้น เนื่องจากเป็นการถ่วงราคาดัชนี ยิ่งราคาหุ้นสูงเท่าไร หุ้นก็ยิ่งมีอิทธิพลต่อความผันผวนของราคารายวันของ Dow มากขึ้นเท่านั้น
คลิกเพื่อดู ปฏิทินเศรษฐกิจ หรือ สัมมนาออนไลน์ฟรี
Andria Pichidi
Market Analyst
คำเตือน: เนื้อหานี้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อการสื่อสารการตลาดทั่วไป เพื่อเป็นการให้ข้อมูลข่าวสารเท่านั้น และไม่ถือเป็นการวิจัยเพื่อการลงทุนอิสระ ไม่มีส่วนหนึ่งส่วนใดของการสื่อสารนี้ที่ประกอบด้วย หรือควรถูกพิจารณาว่าประกอบด้วย คำแนะนำการลงทุน หรือการชักชวนลงทุน หรือการชักชวนเพื่อวัตถุประสงค์ของการซื้อหรือขายตราสารทางการเงินใดๆ ข้อมูลทั้งหมดถูกรวบรวมจากแหล่งที่เชื่อถือได้ และทุกข้อมูลประกอบด้วยตัวบ่งชี้ผลงานในอดีต ไม่ได้เป็นการรับประกันหรือเป็นตัวบ่งชี้ที่น่าเชื่อถือสำหรับผลงานในอนาคต ผู้ใช้พึงทราบว่าการลงทุนใดๆ ในผลิตภัณฑ์ที่ใช้ Leveraged มีความไม่แน่นอนในระดับหนึ่ง และการลงทุนในลักษณะนี้มีความเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงที่สูง ซึ่งผู้ใช้ต้องรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว ทางเราไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียใดๆ ที่เกิดจากการลงทุนโดยใช้ข้อมูลที่เกิดจากการสื่อสารนี้ การสื่อสารนี้จะต้องไม่ถูกผลิตซ้ำหรือแจกจ่ายต่อ โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากทางเรา
