Trip Group Co., Ltd. (Trip.com) เป็นบริษัทข้ามชาติสัญชาติจีนที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1999 โดยอุทิศตนเพื่อบูรณาการผลิตภัณฑ์ด้านการเดินทาง บริการ และเนื้อหาการเดินทางที่แตกต่างหลากหลาย และให้การสนับสนุนนักเดินทางทั่วโลกทุกที่ทุกเวลา บริษัทคาดว่าจะรายงานผลประกอบการใน วันอังคารที่ 14 มิถุนายน
รูปที่ 1: รายงานยอดขายและกำไรต่อหุ้นของ Trip.Com เทียบกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ที่มา：money.cnn
แม้จะได้รับผลกระทบจากความผันผวนของอุตสาหกรรมและฤดูกาล แต่บริษัทยังคงความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ขยายการนำเสนอผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง และปรับปรุงความสามารถด้านเนื้อหา และควบคุมต้นทุนการดำเนินงานอย่างเข้มงวด ส่งผลให้ประสิทธิภาพโดยรวมแข็งแกร่ง การฟื้นตัวของตลาดจากการระบาดใหญ่ยังเป็นก้าวสำคัญสู่ผลประกอบการที่แข็งแกร่งอีกด้วย ตาม รายงานผลประกอบการ เดือนมีนาคม 2022 ของบริษัท รายได้สุทธิทั้งปี 2021 และ EBITDA ที่ปรับปรุงแล้วทั้งปีจะเพิ่มขึ้น 9% และ 6% ตามลำดับ
สำหรับการประกาศผลประกอบการที่กำลังจะเกิดขึ้น ยอดขายตามตัวเลขประมาณการอยู่ที่ 4.0 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 5.26% ตามลำดับ แต่ลดลง -32.20% เมื่อเทียบเป็นรายปี ในทางกลับกัน กำไรต่อหุ้น (EPS) คาดว่าจะอยู่ที่ -$0.48 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสก่อน 11.11% แต่ลดลง -142.48% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
ภาพที่ 2: รายละเอียดตลาดผู้โดยสารทางอากาศ – มีนาคม 2023 แหล่งที่มา：IATA
การเปิดใหม่และการผ่อนคลายข้อจำกัดการเดินทางในหลายประเทศได้นำไปสู่ความต้องการการเดินทางที่เพิ่มขึ้น ตามข้อมูลล่าสุดจาก European Air Transport Association (IATA) ปริมาณผู้โดยสาร (หรือ RPK) ในยุโรปและอเมริกาเหนือเพิ่มขึ้นอย่างมาก 246.9% และ 96.5% ตามลำดับ RPK ในเอเชียแปซิฟิกลดลง -17.9% เนื่องจากข้อจำกัดที่เกี่ยวข้องกับ Omicron Trip.com ดำเนินการในอเมริกาเหนือ ยุโรป และเอเชีย ดังนั้น การเพิ่ม RPK ในภูมิภาคเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ต่อบริษัทโดยพื้นฐาน บางประเทศในเอเชียที่ผ่อนปรนข้อจำกัดของโควิด (เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย กรุงเทพฯ เกาหลีใต้) อาจเป็นอีกสาเหตุหนึ่ง
ภาพที่ 3: ดัชนีประเทศ – พฤษภาคม 2022 แหล่งที่มา： Ipsos
ด้านลบ ปฏิเสธไม่ได้ว่าเมื่ออัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น ราคาการเดินทางก็สูงขึ้น ซึ่งอาจทำให้การฟื้นตัวของการเดินทางหยุดชะงัก แต่นั่นอาจเป็น “จนถึงสิ้นปีและเข้าสู่ปี 2023” ในระดับที่กว้างขึ้น ความเชื่อมั่นผู้บริโภคทั่วโลกยังคงอยู่ในโหมดลดลง จากข้อมูลของ Ipsos มูลค่าของตัวชี้วัดหลายตัว รวมถึงดัชนีประเทศ ดัชนีการลงทุน และดัชนีความเชื่อมั่นในการจ้างงาน ลดลงอย่างมากในแต่ละประเทศ ส่งสัญญาณถึงแนวโน้มเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ซึ่งไม่ดีต่อธุรกิจ
การวิเคราะห์ทางเทคนิค:
ในกราฟรายวัน หุ้น #Trip ทำราคาสูงสุดในปีนี้ที่ 30.70 ดอลลาร์ (15 ก.พ.) ก่อนถึงจุดต่ำสุดที่ 14.12 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดตลอดกาลนับตั้งแต่เริ่มมีการระบาดของโควิด-19 (บันทึก 20.10 ดอลลาร์ เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2020) ราคาหุ้นของบริษัทยังคงอยู่ในกรอบไตรมาสที่สองของปี 2022 (กรอบบน: 25.25 ถึง 25.97 เหรียญสหรัฐฯ กรอบล่าง: 18.15 ถึง 18.55 เหรียญสหรัฐ) ปัจจุบัน $23.43 เป็นแนวต้านแรก การทะลุเหนือระดับนี้อาจบ่งบอกถึงการขยายระยะเวลาที่เป็นไปได้ของโมเมนตัมกระทิงถึงเพดานที่ 25.25-25.97 ดอลลาร์ และจากนั้น 29.18 ดอลลาร์ถึง 29.63 ดอลลาร์ ในทางกลับกัน 21.44 ดอลลาร์เป็นแนวรับที่ใกล้ที่สุด การทะลุระดับแนวรับดังกล่าวอาจบ่งชี้ถึงศักยภาพขาลงของหุ้นของบริษัท เพื่อทดสอบแนวรับถัดไปที่ 19.87 ดอลลาร์ ตามด้วยช่วงที่ต่ำกว่า 18.15 ถึง 18.55 ดอลลาร์
คลิกเพื่อดู ปฏิทินเศรษฐกิจ
Larince Zhang
Market Analyst
คำเตือน: เนื้อหานี้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อการสื่อสารการตลาดทั่วไป เพื่อเป็นการให้ข้อมูลข่าวสารเท่านั้น และไม่ถือเป็นการวิจัยเพื่อการลงทุนอิสระ ไม่มีส่วนหนึ่งส่วนใดของการสื่อสารนี้ที่ประกอบด้วย หรือควรถูกพิจารณาว่าประกอบด้วย คำแนะนำการลงทุน หรือการชักชวนลงทุน หรือการชักชวนเพื่อวัตถุประสงค์ของการซื้อหรือขายตราสารทางการเงินใดๆ ข้อมูลทั้งหมดถูกรวบรวมจากแหล่งที่เชื่อถือได้ และทุกข้อมูลประกอบด้วยตัวบ่งชี้ผลงานในอดีต ไม่ได้เป็นการรับประกันหรือเป็นตัวบ่งชี้ที่น่าเชื่อถือสำหรับผลงานในอนาคต ผู้ใช้พึงทราบว่าการลงทุนใดๆ ในผลิตภัณฑ์ที่ใช้ Leveraged มีความไม่แน่นอนในระดับหนึ่ง และการลงทุนในลักษณะนี้มีความเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงที่สูง ซึ่งผู้ใช้ต้องรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว ทางเราไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียใดๆ ที่เกิดจากการลงทุนโดยใช้ข้อมูลที่เกิดจากการสื่อสารนี้ การสื่อสารนี้จะต้องไม่ถูกผลิตซ้ำหรือแจกจ่ายต่อ โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากทางเรา
